เจสซี่ถ่ายกับคุณวิเวียนเจ้าของแบรนด์ค่ะ
สวัสดีค่ะสาวๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจสได้มีโอกาสไปร่วม Workshop กับ Story Seoul
ได้ไปพบกับคุณวิเวิียนเจ้าของผลิตภัณฑ์
ที่มาแนะนำวิธีการดูแลผิวให้กระจ่างใส่และแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
บรรยากาศในงาน Workshop กับ Blogger ท่านอื่นๆค่ะ
ผลิตภัณฑ์ของ Story Seoul ตอนนี้มีทั้งหมด 3 ไอเทมคือ
- Purifying Cleansing Foam
- Calming & Revitalzing Toner
- Hydrating Daily Lotion
มาเริ่มกันที่ Purifying Cleansing Foam เพียวริฟายอิ้ง คลีนซิ่ง โฟม
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ไม่มีสารอันตราย ปลอดภัยต่อผิวคุณ
ซึ่งผสมผสานไปด้วยส่วนประกอบอันทรงคุณค่าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว
โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย เผยผิวใสได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก
วิธีใช้: เทลงบนฝ่ามือที่สะอาดและเปียก
นวดวนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง
ควรใช้ผลิตภัณฑ์วันละสองครั้งเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อผิวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลิตภัณฑ์ สกินแคร์นี้ ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นอันตราย 100% ปราศจากพาราเบน เอธานอล น้ำมันแร่ ฟีโนซีเอทานอล เบนโซฟีนอล ทัลคัม วัตถุดิบจากสัตว์ ไตรเอทาโนลามีน ปิโตรเลียม สีย้อมสังเคราะห์ เอสแอลเอส(SLS) และ เอสแอลอีเอส (SLES) และลาโนลิน
Portulaca Oleracea มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง และช่วยลดรอยแดงได้
Morus Alba Root อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดและชะลอริ้วรอยแห่งวัย
และยังช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนอีกด้วย
Tocopheryl Acetate รูปแบบหนึ่งของวิตามินอีที่ช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของรังสียูวี
นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงให้ผิวเรียบเนียน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
ต่อมาเรามาดู Hydrating Daily Lotion กันค่ะ
ชิ้นสุดท้ายคือ Calming & Revitalzing Toner คาล์มมิ่ง แอนด์ รีไวทัลไลซิ่ง โทนเนอร์
ปราศจากแอลกอฮอล์ ผลิตขึ้นจากผลไม้คุณภาพเยี่ยมและส่วนผสมจากผัก
ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสารตกแต่งบริเวณใบหน้าและคออย่างอ่อนโอน เเม้ผิวแพ้ง่าย พร้อมกับสารบำรุงที่จะช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับทุกสภาพผิว
โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสารตกแต่งบริเวณใบหน้าและคออย่างอ่อนโอน เเม้ผิวแพ้ง่าย พร้อมกับสารบำรุงที่จะช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับทุกสภาพผิว
โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
วิธีใช้ : หลังจากเช็ดเครื่องสำอางค์ ทำความสะอาดใบหน้าด้วยเพียวริฟายอิ้ง คลีนซิ่ง โฟมแล้ว แนะนำให้ใช้คาล์มมิ่ง แอนด์ รีไวทัลไลซิ่ง
เทโทนเนอร์ลงบนสำลีในปริมาณพอเหมาะ ค่อยๆเช็ดบริเวณใบหน้าและลำคอ
หรืออาจฉีดพ่นบนใบหน้าและลำคอ แล้วซับให้โทนเนอร์ซึมซาบสู่ผิว
หรืออาจปล่อยให้แห้งเอง ควรใช้วันละสองครั้ง เป็นประจำทุกวันก่อนทามอยเจอไรเซอร์
เพื่อผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
หรืออาจฉีดพ่นบนใบหน้าและลำคอ แล้วซับให้โทนเนอร์ซึมซาบสู่ผิว
หรืออาจปล่อยให้แห้งเอง ควรใช้วันละสองครั้ง เป็นประจำทุกวันก่อนทามอยเจอไรเซอร์
เพื่อผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ความสำคัญและคุณประโยชน์ในการใช้โทนเนอร์หลังคลีนซิ่ง
และก่อนมอยเจอร์ไรซิ่งเป็นประจำ
และก่อนมอยเจอร์ไรซิ่งเป็นประจำ
1.ช่วยลดสิ่งสกปรกและสารตกค้างหลังจากล้างหน้า
2.ช่วยสร้างสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่างให้กับผิว
3.ช่วยกระชับรูขุมขน
4.ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
5.ช่วยเตรียมผิวให้ซึมซับมอยเจอร์มากขึ้น
Poncirus Trifoliata ประกอบไปด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน
ซึ่งเป็นพรีเคอร์เซอร์ของวิตามินเอหรือสารประกอบที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้
อ่อนโยนต่อผิว (โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย)
และช่วยสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ในการช่วยต่อต้านแบคทีเรียและอาการภูมิแพ้
ซึ่งเป็นพรีเคอร์เซอร์ของวิตามินเอหรือสารประกอบที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้
อ่อนโยนต่อผิว (โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย)
และช่วยสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ในการช่วยต่อต้านแบคทีเรียและอาการภูมิแพ้
Forsythia Suspensa ช่วยป้องกันอาการอักเสบ
ลดการซึมผ่านผนังหลอดเลือดฝอย และลดอาการเป็นหนองอักเสบ
อันเป็นผลช่วยให้ปัญหาการเกิดสิวหมดไป
ลดการซึมผ่านผนังหลอดเลือดฝอย และลดอาการเป็นหนองอักเสบ
อันเป็นผลช่วยให้ปัญหาการเกิดสิวหมดไป
Citrus Paradisi ทำหน้าที่เป็นสารออกฤทธิ์ ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต
กรดอะมิโนและกรดผลไม้ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำความสะอาดผิว
นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของฟลาโวนอยด์
ที่มีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมผ่านผิวได้และเพิ่มการป้องกันการเกิดหลอดเลือดฝอยหดตัว
กรดอะมิโนและกรดผลไม้ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำความสะอาดผิว
นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของฟลาโวนอยด์
ที่มีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมผ่านผิวได้และเพิ่มการป้องกันการเกิดหลอดเลือดฝอยหดตัว
ไฮเดรตติ้ง เดลี่ โลชั่น
ไฮเดรตติ้ง เดลี่ โลชั่น สร้างขึ้นจากสูตรที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยคุณประโยชน์จากธรรมชาติ
เป็นส่วนประกอบคุณภาพเยี่ยมเพื่อช่วยในการบำรุงผิวของคุณ
และปราศจากน้ำมันเพื่อความพิเศษในการป้องกันการอุดตันที่รูขุมขนอันเป็นสาเหตุให้เกิดสิว
เป็นส่วนประกอบคุณภาพเยี่ยมเพื่อช่วยในการบำรุงผิวของคุณ
และปราศจากน้ำมันเพื่อความพิเศษในการป้องกันการอุดตันที่รูขุมขนอันเป็นสาเหตุให้เกิดสิว
วิธีใช้: เทปริมาณโลชั่นพอในปริมาณที่พอเหมาะ
ทาบริเวณใบหน้าและลำคอให้ทั่วเพื่อการซึมซับที่ดี
ผลิตภัณฑ์ สกินแคร์นี้ ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นอันตราย 100%
ปราศจากพาราเบน เอธานอล น้ำมันแร่ ฟีโนซีเอทานอล เบนโซฟีนอล
ทัลคัม วัตถุดิบจากสัตว์ ไตรเอทาโนลามีน ปิโตรเลียม สีย้อมสังเคราะห์
เอสแอลเอส(SLS) และ เอสแอลอีเอส(SLES) และลาโนลิน
Phellinus Linteus มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการอักเสบ
ที่มีส่วนช่วยให้มีผิวมีความยืดหยุ่น
ที่มีส่วนช่วยให้มีผิวมีความยืดหยุ่น
Sophora Angustifolia มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรียและช่วยการไหลเวียนของเลือด
มีส่วนช่วยให้จุดด่างดำลดเลือนลง
มีส่วนช่วยให้จุดด่างดำลดเลือนลง
Polygonatum Officinale Rhizome Root มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการอักเสบและแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันผิวจากการระคายเคือง การเกิดสิวและจุดด่างดำ
Red Ginseng ช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่
และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวของคุณจากมลภาวะ
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้กับผิวอีกด้วย ช่วยให้เกิดการบำรุงจากภายใน
และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวของคุณจากมลภาวะ
นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้กับผิวอีกด้วย ช่วยให้เกิดการบำรุงจากภายใน
สรุปเลยคือ สิ่งที่เจสชอบ Story Seoul มากๆเพราะว่า Story Seoul เป็นสกินแคร์ที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมี
- พอใช้แล้วผิวดูขาว กระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- อ่อนโยน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวแพ้ง่าย เพราะไม่มีสารเคมีที่ทำให้ผิวอุดตัน
- ปราศจากสารอันตราย 100% เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือให้นมลูก
- ค้นคว้า วิจัย และผลิตที่ประเทศเกาหลี พร้อมผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ
หากเพื่อนๆสนใจ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Story Seoul
www.storyseoul.com | @LINE: @storyseoul
วันนี้เจสขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ
แล้วเจอกันในรีวิวหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ
Lazada: https://goo.gl/Yl2Eku
Comments
Post a Comment